มอนเตเนโกร 
Montenegro  นามนี้ช่างไพเราะเพราะพริ้ง ชัยภูมิที่ตั้งนี้ดั่งเพชรงามแห่งยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศติดกับทะเลเอเดรียติก บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เซอร์เบีย แอลเบเนีย และโครเอเชีย  ดินแดนนี้ในแต่เดิม มอนเตเนโกร เป็นอดีตสาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียมาก่อน ก่อนจะมาเป็นส่วนหนึ่งในสหภาพการเมืองของเซอร์เบีย – มอนเตเนโกร และสุดท้ายไม่นานมานี้ เพิ่งได้รับเอกราชเป็นรัฐประชาธิปไตยเมื่อ พ.ศ. 2549 ปัจจุบัน มอนเตเนโกร เป็นประเทศเล็กๆ มีความปลอดภัยและยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ ของยุโรปยุคกลาง อีกทั้งมีความเด่นด้านภูมิทัศน์ที่หลากหลายและงดงาม ขนานไปกับชายฝั่งทะเลเอเดรียติก และแวดล้อมรอบด้วยเทือกเขาบอลข่าน  สวยงามและมีที่เที่ยวที่น่าไปเที่ยวชม  แล้วจะหลงรัก มอนเตเนโกร เป็นแน่อน  กับ 3 เมืองห้ามพลาดมาเที่ยวชมไข่มุกแห่งอะเดรียติก

 1. เมืองพอดกอรีตซา (Podgorica) เมืองหลวงมีขนาดไม่ใหญ่มาก มีจัตุรัสกลางเมือง และมีโบสถ์ที่สำคัญคือ The Cathedral of the Resurruction of Chirst เป็นโบสถ์ ออร์โธด็กซ์ ขนาดใหญ่ที่สร้างในปี คศ 1993 ภายในมีภาพวาดทางศาสนาที่สวยงดงามมากๆ

โรงกลั่นไวน์ 13 กรกฎาคม ซึ่งเป็นถ้ำขนาดใหญ่ในบริเวณเนินเขา ที่ใช้เก็บไวน์ชั้นดีที่มีชื่อเสียง ของประเทศมอนเตเนโกร  Plantaze ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลมอนเตเนโกรและเอกชน ได้ใช้เป็นคลังเก็บไวน์ขนาด ใหญ่ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “VRANAC” ซึ่งใช้องุ่นพันธุ์ท้องถิ่นที่ดีในการผลิต ทำให้ผลิตภัณฑ์ ไวน์ของที่นี่ ทั้งไวน์แดง และไวน์ขาว มีชื่อเสียงอย่างมาก บริเวณโดยรอบโรงงานไวน์แห่งนี้ เป็นไร่องุ่นที่มีขนาดใหญ่และสวยที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรบอลข่านของยุโรป

 2. เมืองกอตอร์ (Kotor) ทำเลที่ตั้งของเมืองตั้งอยู่ริมอ่าวกอตอร์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเมืองนี้เป็นชายฝั่งทะเลที่สำคัญในอดีต เป็นศูนย์กลางการค้าขายทางทะเลในแถบนี้ จวบจนปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นจุดจอดแวะพักของเรือสำราญขนาดใหญ่ในแถบทะเลอาเดรียติค ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองโดยทางเรือสำราญขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก    

เมืองเก่ากอตอร์ (Kotor Old town)  ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีตามแบบฉบับของเมืองในยุคกลางที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 12-14 ในตัวเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย จึงทำให้เขตเมืองเก่ากอตอร์ ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ โดยองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) มี โบสถ์เซ็นต์ไทรฟอน (Cathedral of St. Tryphon) เป็นโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิกเพียงหนึ่งเดียวในเมืองกอตอร์ ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1166 โดยชื่อโบสถ์ตั้งตามชื่อของนักบุญไทรฟอน ซึ่งเป็นนักบุญผู้ปกป้องเมืองนี้

ล่องเรือในอ่าวกอตอร์
 (Kotor Bay) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกจัดเป็นเขตของมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) เช่นกันกับในเขตเมืองเก่ากอตอร์ เรือจะล่องไปชมบริเวณโดยรอบของอ่าว ท่านสามารถเห็นทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ นำท่านแวะขึ้นเกาะเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่มีตำนานว่าสร้างโดยฝีมือมนุษย์ สร้างจากความศรัทธาที่มีต่อพระแม่มารี ซึ่งบนเกาะเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ Lady of The Rock Church ที่มีหินศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพและศรัทธาตั้งอยู่ด้านหลังแท่นบูชาหลัก ภายในมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ผนังของตัวโบสถ์จะมีแผ่นเงินแกะสลัก ในรูปต่างๆ เช่นอวัยวะของร่างกาย เช่นแขน ขา ตา ที่ชาวบ้านนำมาถวาย เพื่อขอพรให้อาการเจ็บป่วยของตนในส่วนต่างๆของร่างกายให้หายดี

3. เมืองบุดวา (Budva) เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริมทะเลอาเดรียติค มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น “ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร” 

เมืองเก่าบุดวา (Budva Old town) ที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบยุโรปยุคกลางเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ภายในเขตเมืองเก่าจะมีจตุรัสเล็กใหญ่หลายแห่ง เชื่อมด้วยถนนภายในที่มีขนาดเล็กๆแคบๆ ปัจจุบันเป็นถนนสำหรับคนเดิน บ้านเรือนในเขตเมืองเก่าถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น นำท่านเดินผ่านชมจตุรัสต่างๆ เช่น จตุรัสโบสถ์ (Church Square) เดิมเป็นจตุรัสขายเกลือจึงเรียกอีกชื่อว่าเป็น จตุรัสเกลือ (Salt Square) ที่นี่เป็นที่ตั้งของโบสถ์เก่าแก่หลายแห่ง อาทิ โบสถ์เซ็นต์อิวาน  (Church of St. Ivan) โบสถ์ซานต้า มาเรีย (Santa Maria in Punta Church) โบสถ์เซ็นต์จอห์น (Church of St.John) จากคำบอกเล่ากันมาว่าโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในครั้งแรกเมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ถือว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคชายฝั่งทะเลอาเดรียติค และที่สำคัญ คือ เป็นที่ประดิษฐานของภาพไอคอนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่มารีอาที่มีชื่อเรียกว่า Madonna in Punta หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Madonna of Budva นั่นเอง

ก่อนเข้าถึงตัวเมืองบุดวา พลาดไม่ได้กับการถ่าย จุดชมวิวเกาะสเวตติ สเตฟาน (Sveti Stefan Island)  เกาะเล็กๆที่มีชื่อเสียงของมอนเตเนโกร โดยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ครั้งหนึ่งในอดีตสมัยศตวรรษที่15 เคยถูกใช้เป็นป้อมปราการโจรสลัด แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรมสวยหรู ที่คงความสง่างามจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และถือเป็นเกาะส่วนบุคคลที่ไม่อนุญาติให้คนทั่วไปเข้าชม จุดชมวิวแห่งนี้ นอกจากจะเห็นเกาะสเวตติ สเตฟาน แล้ว ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลอาเดรียติคและตัวเมืองบุดวาในมุมกว้างได้อีกด้วย 

เที่ยวมอนเตเนโกร กันนะคะ

Top